OPSCD COLA KKU เข้าร่วมในกิจกรรมของทีมที่ปรึกษาดำเนินโครงการประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนไทยฯ จำลองสถานการณ์จริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการอบรมฯรองรับสถานการณ์ COVID-19

ศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น OPSCD COLA KKU เข้าร่วมในกิจกรรมของ ทีมที่ปรึกษาดำเนินโครงการประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนไทยฯ จำลองสถานการณ์จริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต และเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มากที่สุด และสำรวจความพร้อมในด้านอุปกรณ์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และระบบอินเตอร์เน็ต และจัดทำสื่อวิดิทัศน์จัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมฯ

         

          ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่จะต้องเลี่ยงการรวมกันของคนหมู่มาก ในวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ทีมที่ปรึกษาดำเนินโครงการประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนไทยที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งนำโดย รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ผศ.ดร.จตุภูมิ เขตจัตุรัส อาจารย์สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้นำทีมจำลองสถานการณ์จริง “จัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 มกราคม 2564 ที่จะถึงนี้ ผ่านระบบ Zoom Meeting ณ โรงเรียนบ้านป่ากล้วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 อนึ่ง “การอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต” นี้มีวัตถุประสงค์ คือเพื่อชี้แจงแนวทางในการใช้ระบบ www.tyintegrity.org และเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจไปยังกลุ่มเป้าหมาย ที่อยู่ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 3,000 แห่ง และประเมินผลผลสัมฤทธิ์การใช้หลักสูตรต้านทุจริต จำนวน 3,000 แห่ง

          สำหรับการจำลองสถานการณ์จริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต และเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ มีการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มากที่สุด โดยในวันนี้ ในส่วนของฝ่ายพัฒนาเครื่องมือ นั้น ได้มีการกำหนดแนวทางการจัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมฯ โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงชั้น คือ การใช้ระบบสำหรับประเมินพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริตของเด็กและเยาวชน ในระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา โดยจะแบ่งตามช่วงชั้นผู้เรียน และเป้าหมายผู้ประเมิน และในแต่ละช่วงชั้นของเด็กและเยาวชน (ปฐมวัย ประถมตัน ประถมปลาย มัธยมตัน มัธยมปลาย อุดมศึกษา ปีที่ 1-2 และอุดมศึกษาปีที่ 3-4) จะมีเครื่องมือประเมินพฤติกรรมที่ยึดมั่นความชื่อสัตย์สุจริตของเด็กและเยาวชนช่วงชั้นละ 1 ชุด ในแต่ละชุดมี 4 ฉบับ แยกตาม เป้าหมายผู้ประเมิน ให้เด็กและเยาวชน คือ ฉบับที่ให้เด็กและเยาวชนประเมินตนอง ฉบับครูผู้สอนประเมินให้ ฉบับเพื่อนประเมินให้ และฉบับผู้ปกครอง ประเมินให้เด็กและเยาวชน

          พร้อมกันนี้ยังถือเป็นการสำรวจความพร้อมในด้านอุปกรณ์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และระบบอินเตอร์เน็ต และจัดทำสื่อวิดิทัศน์จัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมฯ โดยครูต้นแบบ เด็กและเยาวชนต้นแบบ และผู้ปกครองต้นแบบ และรวบรวมสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ใน https://opcsmartcity.org/ และนอกจากการเตรียมความพร้อมในเรื่องสื่ออุปกรณ์การการจัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมฯทางไกล ยังถือการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับการจัดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมฯ ด้าน รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ  ยังได้เน้นย้ำว่า” ท่ามกลางสถานการณ์ที่จะต้องเลี่ยงการรวมกันของคนหมู่มาก การอบรมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของทุกคน”